ตู้เชื่อมไฟฟ้า 2 ระบบ RILON เหมาะกับงานแบบไหน?
หากคุณกำลังมองหา ตู้เชื่อมไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ใช้งานได้หลากหลาย ตู้เชื่อมไฟฟ้า 2 ระบบจาก RILON คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และความทนทาน เหมาะสำหรับทั้งช่างมืออาชีพ ร้านรับเหมา ไปจนถึงผู้ใช้งานทั่วไป
สารบัญ
- ตู้เชื่อมไฟฟ้า 2 ระบบ คืออะไร
- ตู้เชื่อมไฟฟ้า 2 ระบบ เหมาะกับงานแบบไหน
- จุดเด่นของตู้เชื่อม 2 ระบบ RILON
- การใช้งานตู้เชื่อม 2 ระบบเบื้องต้น
ตู้เชื่อม RILON 2 ระบบ คืออะไร
RILON ได้ออกแบบตู้เชื่อมที่สามารถใช้งานได้ 2 ระบบในเครื่องเดียว โดยรุ่นยอดนิยมจะมีให้เลือกทั้งแบบ:
MMA (Manual Metal Arc หรือ Stick Welding)
ระบบเชื่อมลวดหุ้มฟลักซ์ ใช้งานง่าย เหมาะกับงานเหล็กทั่วไป โครงสร้าง หรือซ่อมแซมหน้างาน
TIG (Tungsten Inert Gas Welding)
สำหรับงานที่ต้องการความละเอียด แนวเชื่อมสวย เช่น งานสแตนเลส ท่อบาง หรือชิ้นส่วนที่ต้องโชว์แนว
รุ่นบางตัวของ RILON ยังมีฟังก์ชัน ARC Force / Hot Start / Anti-Stick ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ตู้เชื่อมไฟฟ้า 2 ระบบ เหมาะกับงานแบบไหนเหมาะกับงานแบบไหน?
✅ งานเชื่อมเหล็กทั่วไป – ใช้ระบบ MMA ของ RILON ได้อย่างมีเสถียรภาพ เชื่อมได้แน่น ไม่สะดุด
✅ งานสแตนเลส งานตกแต่ง – ระบบ TIG ให้แนวเชื่อมสวย เรียบ ไม่มีสะเก็ดไฟ เหมาะกับงานเฟอร์นิเจอร์ หรือชิ้นส่วนที่ต้องการความเรียบร้อย
✅ งานซ่อมบำรุง – เครื่อง RILON พกพาง่าย น้ำหนักเบา เหมาะกับการนำไปใช้ตามไซต์งาน
✅ ช่างมือใหม่หรือมืออาชีพ – มีระบบควบคุมอัตโนมัติ ปลอดภัย และใช้งานง่าย แม้ไม่มีพื้นฐาน
จุดเด่นของตู้เชื่อม 2 ระบบ RILON
1. ใช้งานได้ครอบคลุม
-
เชื่อมได้ทั้งเหล็ก สแตนเลส และโลหะหลากชนิด
-
ระบบ 2 in 1 เปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ง่ายในไม่กี่วินาที
2. ประหยัดต้นทุน
-
ซื้อเครื่องเดียว ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ต้องแยกซื้อหลายตัว
-
เทคโนโลยี IGBT Inverter ช่วยลดการใช้ไฟฟ้า แต่ยังคงพลังเชื่อมเต็มกำลัง
3. ใช้งานง่าย แม้เป็นมือใหม่
-
หน้าจอแสดงผลชัดเจน ปรับกระแสไฟได้แม่นยำ
-
มีระบบป้องกันไฟกระชาก ความร้อนเกิน และตัดไฟอัตโนมัติ
4. ทนทาน ใช้งานได้นาน
-
ผลิตจากวัสดุเกรดอุตสาหกรรม
-
ทดสอบคุณภาพก่อนส่งถึงมือคุณทุกเครื่อง
5. ศูนย์บริการและอะไหล่รองรับทั่วประเทศ
-
RILON มีบริการหลังการขาย และทีมช่างให้คำปรึกษาตลอดการใช้งาน
-
อะไหล่หาง่าย ซ่อมได้จริง ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ทั้งตัว
การใช้งานตู้เชื่อมไฟฟ้า 2 ระบบเบื้องต้น สำหรับมือใหม่
ตู้เชื่อมไฟฟ้า 2 ระบบ เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ทั้งงานเชื่อมทั่วไปและงานเชื่อมที่ต้องการความละเอียด โดยเฉพาะสำหรับช่างมือใหม่หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งาน การเรียนรู้การใช้งานเบื้องต้นอย่างถูกต้องจะช่วยให้ทำงานได้ปลอดภัย และได้แนวเชื่อมที่มีคุณภาพ
หากคุณกำลังมองหาตู้เชื่อมที่ “ใช้งานได้ครอบคลุม คุ้มทุกบาท” ตู้เชื่อมไฟฟ้า 2 ระบบ คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม!
ขั้นตอนการใช้งานตู้เชื่อมไฟฟ้า 2 ระบบเบื้องต้น
1. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
- ตู้เชื่อมไฟฟ้า 2 ระบบ
- ลวดเชื่อม (ตามชนิดของงาน)
- สายดินและสายเชื่อม
- หน้ากากเชื่อม, ถุงมือ, เสื้อผ้ากันสะเก็ดไฟ
2. ตรวจสอบความปลอดภัยก่อนใช้งาน
- เช็กสภาพสายไฟและอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
- วางตู้เชื่อมในที่แห้งและมีอากาศถ่ายเท
- ต่อสายดินให้แน่น เพื่อป้องกันไฟดูด
3. เลือกระบบการเชื่อม
- หากเป็นเหล็กทั่วไป ใช้โหมด MMA
- หากเป็นสแตนเลส หรือชิ้นงานที่ต้องการแนวเชื่อมเรียบ ให้เลือกโหมด TIG
4. ปรับกระแสไฟให้เหมาะกับขนาดลวดเชื่อม
- ลวดเล็กใช้กระแสต่ำ
- ลวดใหญ่หรือชิ้นงานหนา ใช้กระแสสูง
5. เริ่มเชื่อมโดยเคลื่อนไหวมือให้สม่ำเสมอ
- ควบคุมระยะห่างของลวดกับชิ้นงานให้เหมาะสม
- สังเกตแนวเชื่อม และปรับท่าทางให้สม่ำเสมอ
เคล็ดลับสำหรับมือใหม่
- ฝึกเชื่อมบนเศษเหล็กก่อนเริ่มงานจริง
- สวมอุปกรณ์เซฟตี้ตลอดเวลา
- ทำความสะอาดแนวเชื่อมหลังใช้งาน เพื่อป้องกันการกัดกร่อน
- หากยังไม่ชำนาญในระบบ TIG ควรเริ่มจากงานง่ายก่อน แล้วค่อยพัฒนา